ร้องกองปราบฯ ลูกสาวตกคอนโดฯ ดับปริศนา
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ปาระมี ทรัพย์มี อายุ 38 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ.ปิ่นสุดา ทรัพย์มี อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายน้ำผึ้ง บุตรสาวของ น.ส.ปาระมี ซึ่งพลัดตกจากบริเวณห้องพักเลขที่ 9/225 ชั้น 10 อาคารเอ ไอดิโอมิกซ์ คอนโด 103 ติดสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข แขวงและเขตบางนา กทม. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยนำภาพถ่ายผู้เสียชีวิตและบริเวณห้องที่เกิดเหตุ รวมทั้งจุดที่ร่าง ด.ญ.ปิ่นสุดา ติดอยู่ที่ลานชั้น 4 ของอาคารดังกล่าว มอบให้พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการพิจารณา
น.ส.ปาระมี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สน.บางนา เจ้าของพื้นที่ได้เข้าตรวจสอบเหตุและมีการเก็บหลักฐานต่างๆ แต่การดำเนินการล่าช้า ประกอบกับยังไม่มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ รวมทั้งการประสานขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่เกิดเหตุ โดยทางตำรวจให้เหตุผลเพียงว่าขณะนี้ยังต้องรอผลการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตจากสถาบันนิติเวช แต่ตนมั่นใจว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆ บริเวณรั้วระเบียงห้องก็สูงเกินครึ่งตัวลูกสาว กรณีจะเซหรือพลัดตกก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ และลูกสาวไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เรื่องการเรียน หรือแม้แต่เรื่องแฟนหนุ่มที่คบหากันอยู่ นอกจากนี้ลูกสาวยังกำลังจะเข้าประกวดไทยซุปเปอร์โมเดลกับทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 อีกด้วย
มารดาเด็กหญิงรายนี้ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยจะขอให้โอนสำนวนคดีนี้มาให้ บก.ป.ดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว เพราะเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมทางคดีมากกว่าการดำเนินการของตำรวจท้องที่ ซึ่งปรึกษากับทนายความแล้วก็พบว่าจริงๆแล้วทางพนักงานสอบสวนท้องที่ ไม่จำเป็นต้องรอผลการชันสูตรศพออกมาแล้วค่อยสอบปากคำหรือรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพราะสามารถดำเนินการได้ทันที และหากเป็นเหตุฆาตกรรมก็จะทำให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินต่อไปได้อย่างรวดเร็ว
น.ส.ปาระมี กล่าวต่อว่า เหตุที่ยังมั่นใจว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมเพราะผ้าม่านในห้องถูกปิดทั้งที่ปกติลูกสาวเป็นคนกลัวความมืด และจะระมัดระวังตัวมาก เมื่อเข้าห้องแล้วก็จะล็อกประตู แต่วันเกิดเหตุพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก ส่วนทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 4 หมื่นบาท ก็สูญหายไปหลังเกิดเหตุ แม้ว่าโทรศัพท์และแล็บท็อปยังอยู่ครบ แต่ข้าวของต่างๆ ในห้อง มีร่องรอยถูกรื้อค้น
“ที่สำคัญคือทางนิติบุคคลห้องพักอาคารชุดแห่งนี้ได้แจ้งกับฉันก่อนหน้านี้ว่าขอให้นำกุญแจสำรองไปให้เพราะได้ติดต่อช่างมาซ่อมห้องน้ำห้องพัก แต่ภายหลังเมื่อนำกุญแจไปให้แล้ว กลับไม่พบว่ามีการลงบันทึกเบิกกุญแจห้องไปให้ช่างมาซ่อมห้องน้ำตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ฉันก็มีความติดใจสงสัยในหลายเรื่องที่ขัดแย้งกับการดำเนินการของตำรวจท้องที่ จึงต้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว” น.ส.ปาระมี กล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.เกรียงไกร กล่าวว่าได้รับเรื่องและรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว หลังจากนี้จะประสานกับทาง สน.บางนา เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ดี ตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม รวมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุก่อนประมวลข้อมูลที่ได้มาประกอบการพิจารณาตามกรณีที่มีการร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมดังกล่าวต่อไป
ที่มา: dailynews.co.th