1

ดาวเทียมไทยเจอ'วัตถุ'ลอยอยู่ในมหาสมุทร แต่ไม่ยืนยันว่าบินมาเลย์



เผยดาวเทียมไทยพบชิ้นส่วนลึกลับ 300 ชิ้น ลอยกลางทะเลมหาสมุทรอินเดีย ห่างเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย และห่างจากจุดที่บริษัทแอร์บัสของฝรั่งเศส พบวัตถุต้องสงสัย 122 ชิ้น และส่งข้อมูลการพบให้กับทางการมาเลเซีย เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นซากเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไปหรือไม่ ส่วนการค้นหาชิ้นส่วนกลางทะเลที่ยังมีสภาพอากาศเลวร้าย ต้องงดไปจนกว่าคลื่นลมในทะเลจะเข้าสู่ภาวะปกติ...

การค้นหาชิ้นส่วนซากเครื่องบินโดยสารรุ่นโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ เที่ยวบินที่เอ็มเอช 370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่เบื้องต้นทางการมาเลเซียสันนิษฐานว่า ประสบเหตุตกจากกลางฟ้าลงทะเลทางตอนใต้มหาสมุทรอินเดีย ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งนานาประเทศกำลังช่วยกันค้นหา แต่ยังไม่พบชิ้นส่วนใดๆ แม้ได้ข้อมูลมาทั้งภาพถ่ายดาวเทียมและเรดาร์จากหลายประเทศ ล่าสุด กำลังค้นหาข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจากบริษัทด้านอวกาศยักษ์ใหญ่แห่งยุโรป “แอร์บัส” ในฝรั่งเศสนั้น

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่า ภารกิจค้นหาซากเครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย บริเวณทะเลทางตอนใต้มหาสมุทรอินเดีย ตามข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด ของบริษัทด้านอวกาศ “แอร์บัส” ในฝรั่งเศสที่พบวัตถุต้องสงสัย 122 ชิ้น ลอยในทะเลภายในรัศมี 400 ตารางกิโลเมตร ทางตอนใต้มหาสมุทรอินเดีย ห่างชายฝั่งเมืองเพิร์ธของออสเตรเลีย ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 2,500 กิโลเมตร เผชิญอุปสรรคทางด้านสภาพอากาศเลวร้าย จนต้องหยุดการค้นหาแล้ว

ทั้งนี้ สำนักงานความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลีย (เอเอ็มเอสเอ) แถลงว่า การค้นหาทางอากาศในวันนี้ (27 มี.ค.) ต้องหยุดพักไปก่อน แม้เครื่องบินช่วยภารกิจค้นหา 8 ใน 11 ลำ บินเข้าถึงพื้นที่และเริ่มค้นหาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะสภาพอากาศย่ำแย่ มีพายุฝนฟ้าคะนอง กระแสลมพัดแรง ทัศนวิสัยในพื้นที่เกือบเป็นศูนย์ แต่เรือ “เอชเอ็มเอเอส” ของกองทัพเรือออสเตรเลียที่สมทบโดยเรืออีก 4 ลำของจีน ยังพยายามค้นหาต่อไป




การหยุคค้นหาครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้ หลังเคยหยุดชั่วคราวลง เมื่อวันที่ 25 มี.ค. จากปัญหาสภาพอากาศเลวร้ายเช่นกัน ส่วนกรณีเครื่องบินตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 3 ชิ้นในพื้นที่ค้นหา ทางใต้มหาสมุทรอินเดียเมื่อวันที่ 26 มี.ค.นั้น มีการขึ้นบินวนค้นหาซ้ำอีกหลายรอบ แต่ไม่สามารถตรวจพบวัตถุต้องสงสัยทั้ง 3 ชิ้นที่ว่ามาแต่อย่างใด

ทางด้าน นายอาหมัด เซธ อายุ 26 ปี ลูกชายคนเล็กของ นายซาฮารี อาหมัด ชาห์ กัปตันผู้ขับเครื่องบินโดยสารของมาเลเซียลำที่สูญหาย ออกมาปฏิเสธกระแสคาดการณ์ที่ว่า นายซาฮารีอาจจงใจทำให้เครื่องบินตก โดยระบุว่ารู้จักพ่อดี จึงไม่สนใจข้อครหาต่างๆ ในโลกออนไลน์ ที่ว่าพ่อน่าจะพัวพันเหตุเครื่องบินตก แม้อาจไม่ได้ใกล้ชิดกันนัก เพราะพ่อเดินทางบ่อย แต่ตนเข้าใจพ่อดี



นอกจากนี้ นายเซธยังขอรอดูการยืนยันที่ถูกต้องว่า มีการพบเศษซากเครื่องบินหรือศพอยู่บนเครื่องด้วยตาตัวเอง จึงจะยอมรับว่าเครื่องบินลำนี้ประสบเหตุตกจริง ขณะเดียวกัน การเก็บกู้ข้อมูลที่ถูกลบจากเครื่องซิมูเลเตอร์จำลองการบิน ที่นายชาห์สร้างไว้ที่บ้าน สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐฯ ที่มาเลเซียร้องขอช่วยเหลือสอบสวน น่าจะแถลงผลได้ภายใน 2-3 วันนี้

วันเดียวกัน แม้การค้นหาและพิสูจน์ทราบยืนยัน เหตุเครื่องบินลำนี้ตกจริงหรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจน แต่ครอบครัวและญาติของผู้โดยสารชาวจีนบางส่วน เริ่มได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันชีวิตของจีนแล้ว ส่วนบริษัทที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ “Metron” ในรัฐเวอร์จิเนีย ของสหรัฐฯ ที่เคยช่วยค้นหาจนพบพิกัดกล่องดำของเครื่องบินโดยสารสายการบินแอร์ ฟรานซ์ ของฝรั่งเศส ที่ตกลงมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อปี 2552 ระบุพร้อมช่วยภารกิจค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ถ้ามีการร้องขอมา

ต่อมาสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) ของไทย แถลงข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของไทยพบวัตถุต้องสงสัย 300 ชิ้น ลอยในทะเลทางใต้มหาสมุทรอินเดีย ห่างเมืองเพิร์ธ ของออสเตรเลีย ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 2,700 กิโลเมตร หรือห่างพื้นที่ที่บริษัทแอร์บัสของฝรั่งเศสระบุพบวัตถุต้องสงสัย 122 ชิ้น ออกมา 200 กิโลเมตร แต่ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สทอภ. แถลงไม่สามารถและไม่กล้ายืนยันว่า วัตถุต้องสงสัยที่พบเป็นซากเครื่องบินโดยสารที่สูญหายและได้ส่งมอบข้อมูลนี้กับทางมาเลเซียแล้ว

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
Share this post :

Test Sidebar

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. เรื่องเด่น ประเด็นดัง สาระน่ารู้ - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger